คอลลาเจน,,คอลลาเจน (/ˈkɒlədʒən/) เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเมทริกซ์นอกเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ของร่างกาย

 คอลลาเจน (/ˈkɒlədʒən/) UC II เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเมทริกซ์นอกเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจากเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน จึงเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม[1] ซึ่งคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย คอลลาเจนประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ถูกมัดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเกลียวสามชั้นของไฟบริลที่ยืดยาว[2] ซึ่งรู้จักกันในชื่อคอลลาเจนเฮลิกส์ มักพบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น กระดูกอ่อน กระดูก เส้นเอ็น เอ็น และผิวหนัง

เนื้อเยื่อคอลลาเจนอาจแข็ง (กระดูก) หรือสอดคล้อง (เอ็น) หรือมีการไล่ระดับจากแข็งไปเป็นกระดูกอ่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของการทำให้เป็นแร่ คอลลาเจนยังมีอยู่มากในกระจกตา หลอดเลือด ลำไส้ หมอนรองกระดูกสันหลัง และเนื้อฟันในฟัน[3] ในเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ มันทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหลักของเอนโดมิเซียม คอลลาเจนประกอบด้วยเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อหนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์และคิดเป็น 6% ของน้ำหนักของกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและแข็งแรง[4] ไฟโบรบลาสต์เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนได้มากที่สุด เจลาตินซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรมคือคอลลาเจนที่ถูกไฮโดรไลซ์อย่างไม่สามารถย้อนกลับได้[5] คอลลาเจนมีประโยชน์ทางการแพทย์หลายอย่างในการรักษาภาวะแทรกซ้อนของกระดูกและผิวหนัง

คอลลาเจนชื่อมาจากภาษากรีก κόλλα (kólla) หมายถึง "กาว" และคำต่อท้าย -γέν, -gen ซึ่งแสดงถึง "การผลิต"[6][7] หมายถึง สารประกอบที่ใช้ในช่วงแรกๆ ในกระบวนการสร้างกาวจากการต้มผิวหนังและเส้นเอ็นของม้าและสัตว์อื่นๆ

โครงกระดูกของหัวใจที่มีคอลลาเจนซึ่งประกอบด้วยวงแหวนลิ้นหัวใจทั้งสี่นั้น ถูกผูกมัดทางเนื้อเยื่อ ยืดหยุ่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกับกล้ามเนื้อหัวใจ โครงกระดูกของหัวใจยังรวมถึงผนังกั้นห้องหัวใจที่แยกจากกัน ได้แก่ ผนังกั้นระหว่างห้องและผนังกั้นหัวใจห้องบน การมีส่วนร่วมของคอลลาเจนในการวัดประสิทธิภาพของหัวใจโดยสรุปแสดงถึงแรงบิดอย่างต่อเนื่องซึ่งตรงข้ามกับกลไกของของเหลวของความดันโลหิตที่ปล่อยออกมาจากหัวใจ โครงสร้างคอลลาเจนที่แบ่งห้องบนของหัวใจออกจากห้องล่างเป็นเยื่อหุ้มที่ไม่สามารถซึมผ่านได้ซึ่งแยกทั้งเลือดและแรงกระตุ้นทางไฟฟ้าผ่านวิธีการทางสรีรวิทยาทั่วไป ด้วยการสนับสนุนจากคอลลาเจน คอลลาเจนเป็นชั้นในความหนาแน่นที่หลากหลายพร้อมมวลกล้ามเนื้อเรียบ มวล การกระจาย อายุ และความหนาแน่นของคอลลาเจนล้วนมีส่วนทำให้เกิดการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเคลื่อนย้ายเลือดไปมา แผ่นพับลิ้นหัวใจแต่ละใบจะถูกพับเป็นรูปร่างโดยคอลลาเจนเฉพาะภายใต้แรงกดที่หลากหลาย การสะสมแคลเซียมทีละน้อยภายในคอลลาเจนเกิดขึ้นตามหน้าที่ตามธรรมชาติของริ้วรอย จุดที่เกิดจากแคลเซียมในเมทริกซ์ของคอลลาเจนแสดงให้เห็นความแตกต่างในการแสดงเลือดและกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหว ทำให้วิธีการของเทคโนโลยีการถ่ายภาพหัวใจได้อัตราส่วนที่บ่งบอกว่าเลือดเข้า (การป้อนเข้าของหัวใจ) และเลือดที่ออก พยาธิวิทยาของคอลลาเจนที่หนุนหัวใจนั้นเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

การปลูกถ่ายกระดูก

เนื่องจากโครงกระดูกสร้างโครงสร้างของร่างกาย collagen type 2 การรักษาความแข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะหยุดพักและได้รับบาดเจ็บ คอลลาเจนใช้ในการปลูกถ่ายกระดูกเนื่องจากมีโครงสร้างเป็นเกลียวสามชั้น ทำให้เป็นโมเลกุลที่แข็งแรงมาก เหมาะสำหรับใช้ในกระดูก เนื่องจากไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของโครงกระดูก โครงสร้างแบบเกลียวสามชั้นของคอลลาเจนป้องกันไม่ให้เอ็นไซม์แตกตัว ทำให้เกิดการยึดเกาะของเซลล์ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประกอบเมทริกซ์นอกเซลล์อย่างเหมาะสม

คอลลาเจนถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในศัลยกรรมความงาม เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้เพื่อสร้างกระดูกขึ้นใหม่และเพื่อวัตถุประสงค์ทางทันตกรรม ศัลยกรรมกระดูก และศัลยกรรมที่หลากหลาย คอลลาเจนทั้งของมนุษย์และจากวัวถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะสารเติมเต็มสำหรับการรักษาริ้วรอยและความชราของผิว[12] บางจุดที่น่าสนใจคือ:

เมื่อใช้เครื่องสำอางมีโอกาสเกิดอาการแพ้ทำให้เกิดรอยแดงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถขจัดออกได้อย่างแท้จริงด้วยการทดสอบแผ่นแปะที่ง่ายและไม่เด่นก่อนการใช้เครื่องสำอาง[13]

คอลลาเจนทางการแพทย์ส่วนใหญ่ได้มาจากโคเนื้ออ่อน (วัว) จากสัตว์ที่ปลอดสาร BSE ที่ผ่านการรับรอง ผู้ผลิตส่วนใหญ่ใช้สัตว์บริจาคจาก "ฝูงสัตว์ปิด" หรือจากประเทศที่ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยโรค BSE เช่น ออสเตรเลีย บราซิล และนิวซีแลนด์[